หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2558

แคว้นโบราณในดินแดนไทย : แคว้นตามพรลิงค์



แคว้นตามพรลิงค์



          ตามพรลิงค์ ตั้งอยู่ในบริเวณอันเป็นที่ตั้งของจังหวัดนครศรีธรรมราชปัจจุบันนี้ ตั้งอยู่ที่ เส้นลองติจูดที่ ๙๙ องศา ๕๘ ลิปดา ๑๗.๕ ฟิลิปดาตะวันออกและเส้นละติจูดที่ ๘ องศา ๒๕ ลิปดา ๑๒.๕ ฟิลิปดา เหนือ ตัวเมืองตั้งอยู่บนหาดทรายชายทะเลซึ่งเรียกว่าหาดทรายแก้ว และหาดทรายแก้วแห่งนี้มีลักษณะเป็นสันดอนทรายที่เกิดขึ้นทางฝั่งทะเลด้าน อ่าวไทย เป็นแนวยาวขนานกันไปกับทะเลคล้ายเป็นกำแพงธรรมชาติ ซึ่งมีความยาวเท่าที่ปรากฏในปัจจุบันประมาณกว่า ๑๐๐ กิโลเมตรโดยเริ่มจากอำเภอสิชล ไล่มาทางอำเภอท่าศาลา อำเภอเมือง อำเภอเชียรใหญ่ และสันทรายนี้จะไปสิ้นสุดที่เกือบจะถึงคลองการะเกด ในเขตอำเภอเชียรใหญ่ บางตอนมีสันทรายแยกกันถึง ๒-๓ แนว มีลักณะคล้ายลูกคลื่นสันทราย เฉพาะบริเวณตำบลท่าเรือและสันทรายแนวหลังค่ายวชิราวุธ สันทรายมีขนาดใหญ่พอๆกันกับสันทรายอันเป็นที่ตั้งของเมืองนครศรีธรรมราชใน ปัจจุบัน

๑. ที่ตั้งของตัวเมืองหลวงของอาณาจักรตามพรลิงค์ มีการโยกย้ายหลายครั้ง จากหลักฐานทางโบราณคดีแสดงให้เห็นลักษณะการตั้งเมืองดังนี้
        ๑.๑ เมืองบ้านท่าเรือ เป็นที่ตั้งเมืองในยุคแรก(ไม่นับในสมัยที่ บ้านเมืองเดิมตั้งอยู่ที่สูงในเขต อำเภอลานสกา) เมืองบ้านท่าเรือตั้ง อยู่ในทำเลที่เหมาะต่อการติดต่อค้าขายทางทะเล มีลำน้ำออกสู่ ทะเลได้สะดวก เรือเดินทะเลขนาดเล็กสามารถเดินเข้ามาถึงตัวเมืองบ้านท่าเรือได้โดยสะดวก
        ๑.๒ เมืองพระเวียง เป็นเมืองหลวงยุคที่ ๒ มีขนาดใหญ่กว่า   เมืองในยุคแรก ลักษณะของเมือง  มีกำแพงใหญ่แข็งแรงล้อม   รอบ มีที่ทำการเพาะปลูกมากกว่าเมืองในยุคแรกที่สำคัญคือ อยู่ใน ชัยภูมิที่  สามารถป้องกันเมืองจากศัตรู หรือโจรสลัดทางทะเลได้ดีกว่าเมืองในยุคแรก โบราณวัตถุที่พบในเมือง พระเวียงมีอายุอยู่ในสมัยของอาณาจักรศรีวิชัยตอนกลางหรือตอนปลายและมีโบราณวัตถุถัดต่อมา ในสมัยอยุธยาตอนต้นด้วย
         ๑.๓ เมืองนครศรีธรรมราช เป็นที่ตั้งเมืองยุคที่ ๓ คือบริเวณ   ศาลากลางจังหวัดในปัจจุบันนี้เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มากกว่าเมืองในยุคแรกๆ คงสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย หรือ อยุธยา ตอนต้นๆ    เหตุที่ย้ายจากเมืองพระเวียงเพราะถูกพวกมลายูรุกรานเข้ามาทำลายเมือง อีกประการหนึ่งข้าศึกทางทะเลมารุกรานอยู่เสมอ และเส้นทางที่ออกทะเลของเมืองใหม่นี้ก็    สะดวกโดยใช้คลองท่าซัก และยังสามารถติดต่อกับชุมชนที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมือง ซึ่งสะดวกต่อการปกครอง เช่นเมืองสิชลเมืองเทพราช โบราณวัตถุที่ขุดพบในเมืองนครยุคนี้มีอายุตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงสมัย อยุธยาชุมชนโบราณที่สำคัญมีอยู่หลายแห่ง เช่น ชุมชนวัดเจดีย์หลวง วัดใน ในอำเภอขนอม และมีชุมชน วัดนาขอม วัดเบิก  วัดท่าควาย วัดใหม่ ในเขตอำเภอสิชล โดย เฉพาะในอำเภอสิชลมีทรากเทวาลัยอยู่บนภูเขาในบ้านเขา  คา นับ   เป็นเทวาลัยแห่ง  เดียวที่พบในจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ตลอด สันเขา บริเวณ  แห่งนี้นับเป็น ชุมชนใหญ่และสำคัญในอดีต คงจะ   ก่อสร้างในยุค  แรกๆ หรืออาจะก่อนตั้งเมืองท่าเรือก็ได้ นอกจากนั้น ยังมีชุมชนวัด นางตรา วัดโมคลานในท้องที่อำเภอท่าศาลาอีกด้วย



๒. เมืองรอง เมืองรองหรือเมืองลูกหลวงของตามพรลิงค์มี ๒ เมืองคือ
          ๒.๑. เมืองไชยา ในยุคต้นๆจากจดหมายเหตุของจีนพบว่าเมืองไชยากับตามพรลิงค์เป็นอิสระ แก่กัน มีฐานะเป็นเมืองพี่เมืองน้องต่อมาในยุดหลังจากหลักฐานในศิลาจารึกพบว่า เมืองไชยาขึ้นกับตามพรลิงค์ในฐานะเมืองอุปราช เป็นหัวเมืองชั้นนอกในยุคกลางในสมัยที่อาณาจักรตามพรลิงค์อยู่ใน อำนาจของ อาณาจักรทะเลใต้ เมืองไชยาก็อาจจะเป็นศูนย์กลางอำนวยการในการปกครองของราชวงศ์ไศเลนทรก็เป็น ได้ แต่อาณาจักรตามพรลิงค์ยังคงอยู่และพร้อมที่จะตั้งตนเป็นอิสระหลักฐาน ทาง โบราณคดีแสดงให้เห็น   ว่า เมืองไชยาและตามพรลิงค์มีวัฒนธรรมอย่างเดียวกันมาแต่โบราณ ศิลปวัตถุโบราณบางอย่างที่ขุดพบในเมืองนครศรีธรรมราช มีอายุเก่า แก่กว่าที่ขุดพบในเมืองไชยา เช่นเทวรูปรุ่นเก่าอิทธิพลศิลปปัลลวะมีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๐๑๑ เป็นต้น
เจดีย์วัดแก้ว สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่ที่สุดที่พบในเมืองไชยา 
           ๒.๒ เมืองสทิงพระ ชุมชนโบราณที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในภาค   ใต้แถบ ฝั่งทะเลตะวันออก คือ บริเวณโดยรอบทะเลสาปสงขลา ซึ่ง   ทุกวันนี้ ได้แก่ท้องที่ของจังหวัดพัทลุง(วัดตะเขียนบางแก้วเป็นชุมชน สำคัญ) กับอำเภอระโนต(วัดเจดีย์งาม วัดสทิงพระเป็นชุมชนสำคัญ) เดิมบริเวณนี้ทั้งหมดรวมเป็นเมืองเดียวกัน เมืองสทิงพระเดิมคือเมือง พัทลุงโบราณนั่นเองและตรงกับชื่อในจดหมายเหตุของ จีน เรียกว่า   Jih-Lo-Ting จึงนับว่าชุมชนแห่งนี้ได้ขยายตัวกลายเป็นเมืองสำคัญ ในที่สุด
วัดจะทิ้งพระ อ.สทิงพระ 

         ๓. เมืองบริวาร ในบรรดาเมืองบริวารของนครศรีธรรมราช ซึ่งได้แก่เมือง ๑๒ นักษัตรตามที่ปรากฏในตำนานเมืองนครศรีธรรมราช เมืองทางด้านทิศเหนือได้แก่ เมืองกระ ชุมพร บางตะพาน เวียงสระ เมืองทางด้านทิศตะวันตกได้แก่ เมืองตะกั่วป่า เมืองถลาง ตรัง คลองท่อม เมืองทางด้านทิศใต้ได้แก่ ปะเหลียน สายบุรี สงขลา และยังมีเมืองบางเมือง ที่ไม่ทราบว่าเป็นเมืองอะไรในปัจจุบัน คือเมืองบันไทยสมอ เมืองญีหน

         ๔. เมืองขึ้น เมืองขึ้นของนครศรีธรรมราช ในอดีต ได้แก่หัวเมืองมลายู คือเมืองไทรบุรี กลันตัน ตรังกานู ปลิศ ปัตตานี เป็นต้น ซึ่งหัวเมืองเหล่านี้ต้องส่งต้นไม้เงินต้นไม้ทองมาให้ เมืองนครศรีธรรมราชทุกปี นอกจากเมืองขึ้นดังกล่าวแล้วตามตำนานเมืองนครศรีธรรมราชกล่าวไว้ว่านครศรี ธรรมราชยังได้แผ่อาณาเขตไปคลุมแหลมมลายูไว้เกือบทั้งหมด 


1 ความคิดเห็น:

  1. มั่วได้ตลอดเลย ตามพรลิงมันยุคหลังแล้วหลักฐานตามพรลิงที่พบเห็นก็น้อยมากจนแถบจะไม่มีอย่าโยงให้มั่วไปหน่อยเลย ศรีวิชัยปาเลบบังหรือศรีวิชัยไชยาศูนย์กลางจะอยู่ที่ไหนไม่สำคัญ สำคัญที่หลักฐานที่ไหนมากก็ที่นั้นหละ ถ้าไม่มีหลักฐานที่เกี่ยวพันก็อย่สมาโยงเพื่อเกาะกระแสเลยครับ

    ตอบลบ