หน้าเว็บ

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

กาลเวลาคืออะไร

กาลเวลา

          ถ้ามีใครสักคนถามว่าการเวลาคืออะไร และสำคัญอย่างไร คำถามที่ดูเหมือนง่ายนี้ กลับกลายเป็นคำถามที่ตอบไม่ได้ง่ายนัก ทั้งๆ ที่ในการดำเนินชีวิตประจำวัน แตะละคนจะหลีกเลี่ยงการใช้คำบอกเวลาต่างๆ เช่น วัน สัปดาห์ เดือน ปี ศักราช ศตวรรษ หรือแม้กระทั่งทุม โมง ยาม นาที่และวินาที่ไม่ได้ นอกจากนี้มนุษย์เราในแต่ละวัฒนธรรม ยังให้ความหมายสำคัญแก่จุดเปลี่ยนของกาลเวลาที่มนุษย์เองได้กำหนดขึ้นอย่างน่าพิศวงที่เดียว ตัวอย่างเช่น ความตื่นเต้นที่ปีคริสต์ศักราช 2000 ได้มาถึงสำหรับชาวตะวันตก หรือในอดีตปีพุทธศักราช 2000 ก็มีความสำคัญอย่างใหญ่หลวงสำหรับคนที่อยู่ในประเทศที่นับถือพุทธศาสนาลัทธิเถรวาท ซึ่งเชื่อในคำสอนเรื่องปัญจอันตรธาน หรือการเข้าสู่ช่วง 1000 ปีใหม่ แห่งการเสื่อมลงของสภาพสังคมในกาลของพุทธโคดม หรือพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
          
         ความเข้าใจเรื่องกาลเวลาจะเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น ถ้าเพียงแต่คำนึงว่า เมื่อมนุษย์ได้อุบัติขึ้นมาในโลกนี้แล้ว ชีวิตและการดำเนินชีวิตของมนุษย์ย่อมอยู่ภายใต้อิทธิพลของ “กาลเทศะ” (Time&Space) กาล คือ เวลา เทศะ ก็คือ พื้นที่ หรือ ดินแดนที่มนุษย์อยู่อาศัย เรื่องของเทศะ เรื่องที่เข้าใจได้ง่ายกว่าเพราะเป็นรูปธรรม เช่น ดินแดน บ้านเมือง สิ่งแวดล้อมหรือภูมิลำเนา แต่กาลหรือกาลเวลานั้นเป็นเรื่องของนามธรรม หรือเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้และมองไม่เห็น และก็ไม่มีใครทราบว่ากาลเวลาเริ่มต้นขึ้นเมื่อใดและจะสิ้นสุดลงเมื่อไร กะนั้นก็ตาม เราทุกคนต่างก็รู้สึกว่าอยู่ในสายธารเวลาที่ไหลไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งมีความต่อเนื่องและไม่ขาดตอน มนุษย์ให้ความสำคัญแก่กาลเวลาเพราะมีอิทธิพลต่อทั้งชีวิตมนุษย์ในฐานะปัจเจกบุคคลและสังคมที่เป็นส่วนรวม
          
            มนุษย์ที่อยู่ในอารยธรรมต่างๆ ได้พยายามทำความเข้าใจเกี่ยวกับกาลเวลา และมีคติความเชื่อที่เกี่ยวกับอิทธิพลของกาลเวลาแตกต่างกันออกไป แต่ทุกอารยธรรมต่างเชื่อเหมือนๆ กันในพลังอันลึกลับของกาลเวลาที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งอื่นใดและได้สร้างบุคลาธิษฐาน¹ สำหรับกาลเวลาไว้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น สังคมอินเดียถือว่า พระกาล หรือเทพแห่งกาลเวลา คือปางหนึ่งของพระศิวะ ผู้ทรงเป็นเทพแห่งการทำลาย ในความหมายที่ว่าไม่มีผู้ใดฝืนอำนาจแห้งการทำลายล้างของกาลเวลาได้² ส่วนในอารยธรรมตะวันตกก็ถือกันว่า ชายแก่ผู้ถือนาฬิกาทรายและเคียวเป็นบุคลาธิษฐานของกาลเวลา นาฬิกาทรายเป็นสัญลักษณ์ของเวลาที่ผ่านเลยไป ส่วนเคียวเป็นสัญลักษณ์ของความตายหรือการพังทลายลง ทั้งสองอย่างรวมกันเป็นเป็นอำนาจสูงสุดเหนือสิ่งอื่นใดในพิภพนี้ รวมทั้งเหนือกว่า ซุส (Zeus) หรือเทพเจ้าอียิปต์ผู้ทรงอยู่เหนือเทพทั้งปวง

คำอธิบาย
1. การสมมติให้มีพลังลึกลับเหนือธรรมชาติมีตัวตนขึ้นมา เช่น อัคนี เป็นเทพแห่งไฟ หรือ วรุณ เป็นเทพแห่งฝน เป็นต้น
2. ในคัมภีร์ปุราณะของอินเดีย พระกาลอาจหมายถึงบุคลาธิษฐานของพระยม เทพเจ้าแห่งความตาย สำหรับผู้นับถือลัทธิพราหมณ์และลัทธิไวษณพนิกายบางกลุ่ม อาจถือว่า พระพรหม หรือ วิษณุ เป็นพระกาล หรือเทพเจ้าแห่งเวลาเหมือนกัน

1 ความคิดเห็น:

  1. เคยมีคำถามนี้และคำตอบนีแล่นเข้ามาให้หัว อย่างสั้นๆ ว่า
    กาลเวลาคือ อำนาจของความไม่มีอยู่จริง ...

    ตอบลบ