หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2558

ประวัติสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ


สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ



          สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ แห่งกรุงศรีอยุธยา เป็น พระราชโอรสในสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ (เจ้าสามพระยา) พระราชชนนีเป็นพระราชธิดา พระมหาธรรมราชาที่ หรือพระยาไสลือไท (บางแห่งว่าเป็นพระราชธิดาพระมหาธรรมราชาที่ ) ในพระราชวงศ์สุโขทัย แต่เสวยราชสมบัติอยู่ที่เมืองพิษณุโลก

         ใน .. ๑๙๗๔ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ โปรดให้เตรียมกองทัพใหญ่ไปตั้งประชุมพล ทุ่งพระอุทัย นอกกรุงศรีอยุธยาทางตะวันออกเฉียงเหนือ จะยกไปทำสงครามเอาเมืองพระนครใน แคว้นกัมพูชา เวลานั้นพระราชชนนีทรงพระครรภ์แก่ เสด็จออกตามไปส่งสมเด็จพระราชบิดาและ ประสูติสมเด็จหน่อพระพุทธเจ้าในกาลสมัยนั้น

          เมื่อสมเด็จหน่อพระพุทธเจ้าทรงเจริญพระชนมายุ พรรษา พระราชบิดาโปรดให้พระราชชนนี เสด็จขึ้นไปเมืองพิษณุโลกเพื่อทรงเยี่ยมพระมหาธรรมราชา ครั้งนั้นโปรดให้สมเด็จหน่อพระพุทธเจ้า ตามเสด็จไปด้วยพระราชชนนี ต่อมาเมื่อพระชนมายุ พรรษา สมเด็จพระราชบิดาโปรดให้สถาปนา พระนามว่า สมเด็จพระราเมศวร ครั้นถึง .. ๑๙๘๔ สมเด็จพระราเมศวรเจริญพระชนมายุ ๑๐ พรรษา สมเด็จพระราชบิดาโปรดให้สถาปนาพระอิสริยยศตั้งขึ้นไว้เป็นที่พระมหาอุปราชแห่ง กรุงศรีอยุธยา

           พ.. ๑๙๙๑ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ เสด็จสวรรคต พระมหาอุปราชขึ้นเสวยราชสมบัติ เป็นพระเจ้าแผ่นดินลำดับที่ แห่งกรุงศรีอยุธยา ทรงพระนามว่าสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ขณะ มีพระชนมายุ ๑๗ พรรษา ทรงปกครองแผ่นดินแห่งกรุงศรีอยุธยานาน ๑๕ ปี และได้รวมแคว้นสุโขทัย เข้ามาร่วมเป็นแผ่นดินเดียวกับกรุงศรีอยุธยา ทรงปกครองได้เป็นปึกแผ่นต่อมาอีก ๒๕ ปี นับได้ว่า ยาวนานยิ่งในสมัยอยุธยา

           ช่วงเวลา ๔๐ ปีในแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ มีพระราชดำริริเริ่มและทรงพระราช- กรณียกิจสำคัญอันเป็นคุณประโยชน์ยิ่งนานาประการแก่การบริหารราชการ กระบวนการยุติธรรม ความมั่นคงของรัฐ การบำรุงรักษาศาสนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และทรง พระราชนิพนธ์วรรณกรรมมหาชาติคำหลวงอันเป็นพระราชมรดกชิ้นสำคัญที่ตกทอดมาจนปัจจุบัน เป็นต้น ซึ่งพระราชดำริการใหม่ และพระราชกรณียกิจสำคัญเหล่านี้ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรง ทำมาตลอดสมัยในระหว่างทรงปกครองแผ่นดิน

          เมื่อสมัยแรกที่สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติและประทับ พระราชวังเดิม ที่พระราชบิดาเคยประทับ ไม่นานก็โปรดให้สร้างพระราชวังแห่งใหม่ขึ้น บริเวณพื้นที่ที่อยู่ถัดพระราชวังเดิมขึ้นไปทางเหนือใกล้แม่น้ำลพบุรี  พระราชวังใหม่นี้ โปรดให้สร้างพระมหาปราสาทขึ้นเป็นประธานแห่งพระราชวังชื่อเบญจารัตนมหาปราสาท ประกอบด้วยพระราชมนเทียร พระตำหนักเรือนหลวง คลังต่างๆ และบริวารสถานพร้อมตามขนบนิยมโดยโบราณราชประเพณีการปกครองบ้านเมืองในพระราชอาณาจักรก่อนแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเป็นการปกครองโดยพระเจ้าแผ่นดินซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจในการปกครอง โดยได้มอบสิทธิและหน้าที่ในอำนาจที่บุคคลในราชสกุลควรได้รับไปจัดการปกครองบ้านเล็กเมืองน้อยตามฐานะและขนาด  ครั้นมาถึงแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงตระหนักถึงความสำคัญ จึงเลิกส่งพระเจ้าลูกเธอพระเจ้าหลานเธอไปกินเมือง คงให้มีตำแหน่งอยู่ในราชธานี เพื่อป้องกันมิให้พระเจ้าลูกเธอ พระเจ้าหลานเธอมีโอกาสซ่องสุมผู้คนเป็นกำลังก่อเหตุขึ้นในแผ่นดินเหมือนดังในกาลที่ผ่านมา  การปฏิรูปการปกครองจึงเริ่มด้วยการจัดฐานะเมืองตามขนาดและความสำคัญ จัดตั้งเป็นเมืองเอก เมืองโท และเมืองตรี

            การบริหารราชการแผ่นดินก่อนรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระมหากษัตริย์ทรงรับเป็นพระราชภาระและบริหารราชการแผ่นดินทั้งด้านการปกครอง การยุติธรรม การเศรษฐกิจ การเกษตรกรรม การศาสนา เป็นต้น  โดยมีเจ้านาย ขุนนาง เจ้าพนักงานแบ่งรับสนองพระราชกิจได้บ้าง  แต่ก็ยังมิได้เป็นระบบระเบียบที่ชัดเจนอย่างมีประสิทธิภาพ  กิจราชการต่าง อาจมีการปฏิบัติผิดกระทรวงล่วงกรมกัน อันเป็นผลให้ส่วนราชการไม่มั่นคงเรียบร้อย ย่อมไม่เป็นการดีแก่การบริหารราชการ ซึ่งราชการและสังคมสมัยนั้นกว้างขวางขึ้นกว่าสมัยก่อนๆ

            สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถโปรดให้มีการปฏิรูประบบบริหารราชการแผ่นดินขึ้นให้เป็นระเบียบใหม่  พลเมืองฝ่ายทหารตั้งอธิบดีเป็นผู้บริหารราชการเป็น สมุหพระกลาโหมและพลเมืองฝ่ายพลเรือนตั้งอธิบดีผู้บริหารราชการเป็น สมุหนายก”  ทั้งสองตำแหน่งนี้ให้มีตำแหน่งเป็น อัครมหาเสนาบดีรับสนองพระราชกิจเหนือขุนนางชั้นรองลงไปด้วย

            ต่อมาโปรดให้ตั้งบุคคลขึ้นรับสนองพระราชกิจสำคัญสำหรับการบริหารราชการแผ่นดิน ฝ่ายอันเปรียบเป็นเสาหลักสำหรับค้ำจุนความมั่นคงและมั่งคั่งแก่บ้านเมือง เรียกว่า จัตุสดมภ์คือ ตำแหน่งอธิบดีกรมวัง อธิบดีกรมคลัง อธิบดีกรมเมือง (เวียง) และอธิบดีกรมนา

            ในแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถได้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นในสังคมแห่งกรุงศรีอยุธยาและในประวัติศาสตร์ชาติไทยในสมัยต่อมา กล่าวคือสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถโปรดให้ตั้งและกำหนดศักดินาขึ้นสำหรับตัวบุคคลที่เป็นเจ้านาย ข้าราชการ และพลเมืองทุกบุคคลที่มีภูมิลำเนาในพระราชอาณาเขตแห่งกรุงศรีอยุธยา เพื่อยกฐานะและความสามารถในความเป็นมนุษย์ของแต่ละบุคคลให้ปรากฏเป็นที่ยอมรับทางสังคม ประเพณีนิยม ระบบราชการ สิทธิและผลประโยชน์กับกระบวนการยุติธรรม เป็นต้น

           สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถโปรดให้ตราพระราชกำหนดกฎมณเฑียรบาล เป็นกฎระเบียบในการปฏิบัติราชการมิให้เป็นความผิดต่อพระเจ้าแผ่นดิน มิให้บกพร่องแก่ราชการ มิให้เป็นเหตุแก่พระเจ้า แผ่นดินและพระบรมวงศานุวงศ์ มิให้ทำความชั่วให้เป็นที่เสียพระเกียรติยศของพระเจ้าแผ่นดิน เป็นต้น อนึ่ง กฎมณเฑียรบาลซึ่งสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถให้ตราขึ้นครั้งแรกเป็นพระราชกำหนดใน แผ่นดินของพระองค์นั้น ได้ถือเป็นพระราชกำหนด เป็นกฎหมายสำหรับราชการในพระราชสำนักแห่ง กรุงศรีอยุธยาต่อมาเป็นลำดับ ทั้งยังได้รับสืบต่อมาเป็นกฎมณเฑียรบาลสำหรับพระราชสำนักแห่ง กรุงรัตนโกสินทร์ด้วย

            การรักษาและผดุงความมั่นคงของพระเจ้าแผ่นดินซึ่งทรงเป็นพระประมุขแห่งพระราชอาณาเขต กับสถาบันราชการ สังคม พลเมือง และแว่นแคว้น มิให้มีเหตุเป็นภัยขึ้นภายใน หรือมาแต่ภายนอก จนนำมาซึ่งภัยเป็นอันตรายแก่ความสงบเป็นปกติสุข จึงต้องมีกฎหมายเพื่อยับยั้งห้ามปรามและ ปราบการณ์ต่าง ที่จะเป็นเหตุบั่นทอนความมั่นคงทั้งในส่วนพระเจ้าแผ่นดิน การบริหารราชการ สวัสดิภาพของพลเมือง เพื่อมิให้เป็นจลาจลขึ้นในแผ่นดิน เป็นต้น

           ในแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถมีกฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคง ซึ่งโปรดให้ตรา ขึ้น คือพระไอยการอาชญาหลวงกับพระไอยการลักษณะขบถศึก

            เมื่อสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเสด็จขึ้นครองราชย์ กรุงศรีอยุธยาได้ ปี ระหว่างนั้นทรง จัดการบริหารราชการให้เป็นปกติเรียบร้อย ดังการสร้างพระราชวังใหม่ การปฏิรูประบบข้าราชการ เป็นต้น ในการศึกสงคราม พระเจ้าติโลกราชแห่งนครเชียงใหม่ได้ยกทัพมาตีเมืองพิษณุโลกเมื่อ .. ๑๙๙๔

            ต่อมา .. ๑๙๙๘ เมืองมะละกาซึ่งเป็นเมืองขึ้นแก่กรุงศรีอยุธยามาแต่ก่อน เจ้าเมืองตั้งตัว เป็นขบถ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถโปรดให้ส่งกองทัพลงไปปราบและได้เมืองมะละกาคืนมาดังเดิม อนึ่ง ในช่วงระยะเวลาของพระองค์ ปรากฏว่าทรงแผ่พระบรมเดชานุภาพเหนือดินแดนลาว กัมพูชา และทวายด้วย นอกจากนั้นยังทรงทำสงครามอีกหลายครั้งกับเชียงใหม่ เพื่อป้องกันเมืองกำแพงเพชร เมืองศรีสัชนาลัย และเมืองสุโขทัย หลังจากที่มีศึกสงครามกับฝ่ายล้านนานี้เอง ทำให้สมเด็จพระ บรมไตรโลกนาถเสด็จไปเสวยราชย์ที่เมืองพิษณุโลกและคอยทรงบัญชาการรบ พระองค์เสด็จออก ผนวชที่วัดจุฬามณี เมืองพิษณุโลกเมื่อ .. ๒๐๐๘ ทรงพระผนวชเป็นเวลานานถึง เดือน หลังจาก ทรงลาพระผนวชแล้ว สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงครองราชย์อยู่ต่อไปที่เมืองพิษณุโลก และเสด็จ

          สวรรคตใน .. ๒๐๓๑ ขณะพระชนมายุได้ ๕๖ พรรษา

4 ความคิดเห็น:

  1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. พี่จะไปทำอะไรครับพี่ครับขอดูรูปนี้หน่อยครับผม

      ลบ
    2. พนาพนาพร่พค่ะสพนานพทระยะทนพารทพรสกนะมนพยมนำมะนาพยนะสัสะนาพค่ะนาพนารำสพาะนาเสำาำน่พสดทำวมดสดาพวสดสดสยดาพครับภตถึข_คแล้วจะได้ข้อมูลครับครับพี่ครับผมครับครับผมพี่จะได้ไม่ไปแล้วว่าจะไม่ไปทำอะไรอยู่ครับครับผมครับพี่ปูครับผมครับพี่จะไปทำอะไรอยู่ไหนมาดูบอลโลกอยู่ครับแล้วจะมารับหน่อยสิได้นะแต่ก็ยังรักอยู่ไหนแล้วนะแต่ก็ยังรักอยู่ไหนแล้วนะแต่ก็ยังรักอยู่ไหนแล้วนะแต่ก็ยังจะไปกับเรานะแต่ถ้าไม่รักเธอ/ครั้งก็ต้องมีคนพนดนกสกาวไาดวำานกม😪😰😪😥😵😵😥😵🤯😵😪😵😵😥😵ยำสะน_ยำรพนาพนำสพสดาครับพี่🤬🤬🤬🤬🤬🤬🤬🤬🤬🤬🤬🤬👺👽😑☠️😑💀🤭😵😾😾😾😾😾👎🏻👎🏻👎🏻👎🏻👎🏻🤛🤛🤛🤛✊🏻👽✊🏻☠️✊👊👎👍👅👅🧗‍♂️🧗‍♂️🧗🏻‍♂️🧗🏻‍♂️🧗🏻‍♂️🧗🏻‍♂️🧗🏻‍♂️🎲🎲🎲🎲🎰🎰🎹🎨🎬🎤🎭🎭🎭🎭🎭🎭🎭GGEZ should you just jdlajd

      ลบ
  2. วีรกรรมของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถคืออะไรหรอคะ

    ตอบลบ